วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning log 8 (สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน)


Learning log 8 นอกห้องเรียน

   ในปัจจุบันเรามีทางเลือกมากมายสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทั้งหนังสือพิมพ์หนังสือวรสารได้เทคโนโลยีซึ่งเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ก้าวหน้าพัฒนาได้อย่างรวดเร็วทำให้แหล่งการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่มาควบคู่กับเทคโนโลยีมากเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบเรียนรู้ทักษะด้านต่างๆของภาษาอังกฤษ กับสื่อออนไลน์ต่างๆที่มีทั้งความสะดวกสบายรวดเร็ว นอกจากนี้ยังได้ความรู้ครบถ้วนทำให้เราได้ทำความเข้าใจและสาระความรู้ต่างๆได้ทั้งความสนุกเพลิดเพลินในการเรียนที่หลากหลายซึ่งส่งผลดีต่อเราคือเราเกิดการพัฒนาตัวเองมากขึ้นเพื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียนส่วนใหญ่มักเกิดจากความสนใจของเราเอง

รายการโทรทัศน์ในปัจจุบันที่มีมากมายที่ให้ทั้งสาระความรู้และความสนุกสนานโดยเฉพาะการเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษซึ่งหลากหลายรายการที่ให้ทักษะภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นการฟังการพูดการอ่านและการเขียนเพื่อพัฒนาเด็กไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่นรายการภาษาอังกฤษติดล้อ ซึ่งเป็นรายการที่ดิฉันชอบและสนใจมากมีการแบ่งการเรียนรู้เป็นสถานการณ์ต่างๆที่เราสามารถนำทั้งประโยคคำศัพท์ใหม่ใหม่สำเนียงการพูดมาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงตัวอย่างเรื่องที่ดิฉันได้ดูคือ A day at the Bangkok Railway station ซึ่งเป็นการอธิบายเกี่ยวกับการเดินทางโดยใช้รถไฟ ดิฉันได้รับความรู้มากมายคือ railway ทางรถไฟ มาจาก rail (ราง)  และ way (ทาง) , The state Railway of Thailand SRT การรถไฟแห่งประเทศไทย  , Railway station  สถานีรถไฟ , Railway junction ชุมทางรถไฟ (รถไฟหลายเส้นทางมาบรรจบกัน) Ticket counter ที่จำหน่ายตั๋วหรืออาจใช้คำว่า Ticket office ซึ่งแปลว่า ที่จำหน่ายตั๋วเช่นกัน , เมื่อเราต้องการจองตั๋วล่วงหน้าจะใช้คำว่า Advanced booking

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับขบวนรถไฟ ขบวนรถด่วน Express train , ขบวนรถเร็ว Rapid train , ขบวนธรรมดา Ordinary train , ขบวนรถชานเมือง Bangkok commuter train ขบวนท้องถิ่น , Rural commuter train : ซึ่ง commuter ในที่นี่หมายถึง ผู้เดินทางสั้นๆรอบเมือง , ขบวนรถท่องเที่ยว excursion train : Excursion หมายถึง การเดินทางระยะสั้น , lady car ตู้รถโดยสารสำหรับสตรี , AIR Conditioned sleeper carriage คู้รถไฟปรับอากาศ , platform ชานชาลา , journey การเดินทาง นอกจากได้รับคำศัพท์ที่เกี่ยวรถไฟแล้วยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับประโยคอีกด้วย Excuse me , where is the toilet ขอโทษนะคะ ห้องน้ำไปทางไหนคะ ซึ่งเราอาจตอบได้ว่า Over there ทางโน้นคะ , The purple train is the most luxurious train of all. รถไฟสีม่วงเป็นขบวนที่หรูหราที่สุดของทั้งหมด หรือจะเป็น What is the going rate for the VIP train? รภขบวนพิเศษราคาเท่าไร

นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ในสถานการณ์ที่เราอยู่ในสนามบินหรือเรียกว่าท่าอากาศยาน ดิฉันได้เรียนรู้ที่น่าสนใจมากมาย Airport สนามบิน , Budget Airline สายการบินต้นทุนต่ำ หรือใช้คำว่า Low coast Airline , City center ใจกลางเมืองซึ่งใช้คำว่า Center แบบนี้จะเป็นแบบอเมริกัน แต่ถ้าจะเป็นแบบอังกฤษจะใช้คำว่า Centre , departure ขาออก , arrived ขาเข้า , take off เครื่องบินขึ้น , flight เที่ยวบิน , เมื่อเราต้องการฝากกระเป๋าต่างๆ เราจะใช้บริการรับฝากกระเป๋าซึ่งใช้คำว่า left baggage หรือ luggage storage services คำว่า baggage หรือ luggage จะมีความหมายเหมือนกัน , sightseeing tour ทัวร์ชมสถานที่ , limousine บริการรับส่งสนามบิน , และเมื่อเราต้องการแลกเปลี่ยนเงินตราเราจะใช้คำว่า Currency exchange หรือ money exchange ก็ได้

E-Ticket ตั๋วโดยสารอิเล็กตรอนนิค ซึ่ง E ย่อมาจากคำว่า Electronic ต่อมาได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับพนักงานที่ทำงาน เช่น ground staff พนักงาน/เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน , captain กัปตัน , co-pilot นักบินผู้ช่วย , cabin crew พนักงานบริการ และ Air hostess คำๆนี้เป็นคำที่ใครหลายๆคนรู้จักกันดี แปลว่า พนักงานบริการบนเครื่องบิน ต่อมาจะเป็นคำศัพท์ที่เกี่ยวกับบัตรผ่านไปขึ้นเครื่อง ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า boarding pass , Boarding time เวลาขึ้นเครื่องบิน และ Board gate หมายเลขประตูขึ้นเครื่อง นอกจากนี้ยังได้รู้จักประโยคในภาษาอังกฤษในการใช้ถามอีกด้วย Has the flight from Chaing Mai arrived yet? เที่ยวบินจากเชียงใหม่มาถึงหรือยัง และ We would like to check in on flight DD7406 to Chaing Mai , please.

อีกหนึ่งสถานการณ์ที่กิฉันได้เรียนรู้คือ A day st the market. ซึ่งมีคำศัพท์ที่น่าสนใจเกี่ยวผักและผลไม้และอื่นๆ ได้แก่ cabbage กะหล่ำปลี่ , มะนาวไทย Lime , morning glory ผักบุ้ง ,asparagus หน่อไม้ฝรั่ง , dried mushroom เห็ดแห้ง , shiitake เห็ดหอม , spare ribs ซีกโครง , ground pork หมูสับ , แก้วมังกร dragon fruit , guava ฝรั่ง , rose apple ชมพู่ , pomelo ส้มโอ และ Zalacca แปลว่าสละ นอกจากนี้ยังได้เรียนู้คำถามเกี่ยวกับการซื้อของต่างๆในภาษาอังกฤษ คือ How much is a kilogram of pork spare ribs. ซีกโครงหมูราคาเท่าไร และถ้าเราอยากรู้ว่าผลไม่ที่เราจะซื้อนั้นหวานรึเปล่า ให้ถามว่า How sweet is a pomelo , may I taste it? ส้มโอหวานแค่ไหนขอชิมได้ไหมค่ะ จะเห็นได้ว่าจากการที่ดิฉันได้ดูรายการภาษาอังกฤษติดล้อนั้นได้รับทั้งความรู้ประโยคคำถามต่างๆ คำศัพท์ใหม่ๆ คำศัพท์เฉพาะทางและยังได้ฟังสำเนียงการพูกภาษาอังกฤษที่ดีอีกด้วย

คำศัพท์หลายๆคำที่เราคุ้นเคยและมักจะเห็นบ่อยๆ บางคำมีการเขียนเหมือนกัน มีการใช้ต่างกัน บางคำเป็นคำศัพท์แค่คำเดียวแต่ก็มีหลายความหมาย บางคำเมื่อเขียนติดกันเป็นอีกความหมายหนึ่งและบางคำเมื่อเขียนแยกกันก็มีอีกความหมายหนึ่ง เช่นคำว่า sometime , sometimes และ some time ซึ่ง sometime ตัวที่หนึ่งจะแปลว่า ณ เวลาหนึ่งในอดีตหรือในอนาคต ตัวอย่างประโยคเช่น Sometime after  nine everybody left. ชาวงเวลาหลังจาก 3 ทุ่มทุกคนกลับหมด ต่อมาคือ sometimes ที่มีการเติม –s จะหมายความว่า บางครั้ง เช่น Sometimes I want to do things on my own. บางครั้งฉันอยากทำอะไรด้วยตัวเองและสุดท้าย คือ some time จะมีความหมายว่า มีเวลาบางหรือเปล่า ตัวอย่างประโยคเช่น Do you have some time to check my work? คุณมีเวลาหรือเปล่าที่จะต้องตรวจงานของฉัน

Everyday กับ every day สองคำนี้จะมีความแตกต่างกันคือ everyday คำนี้จะเป็นคำคุณศัพท์ที่แปลว่า ซึ่งเกิดขึ้นทุกวัน , ธรรมดามี synonym คือ commonplace , ordinary หรือ normal ตัวอย่างประโยคเช่น It is a very special party. We will not serve an everyday home-cooking. ส่วน every day เป็นสำนวนที่บอกเวลาแปลว่า ทุกวันหรือเป็นประจำ มี synonym คือ each day และ regularly ตัวอย่างเช่น My mother goes to the gym every day ซึ่งสรุปได้ว่า Everyday เป็นคำเดี่ยวๆที่ต้องมีคำนามตามหลังเสมอ ในขณะที่ every day = Adjective+Noun ดังนั้น จะใช้โดยไม่มีคำนามตามหลังและจะวางไว้ต้นหรือท้ายประโยคก็ได้

คำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่มีอยู่เป็นจำนวนมากที่ออกเสียงหรือเขียนคล้ายกันมาก ทำให้เราเกิดความรู้สึกสับสนในการใช้ จนบางครั้งไม่แน่ใจว่า คำไหนควรใช้อย่างไร และคำไหนที่แปปลตรงกับความต้องการของเรา ตัวอย่างเช่น dessert กับ desert เป็นคู่คำศัพท์ที่ใช้ผิดกันบ่อยมาก เนื่องจากความต่างอยู่ที่มี s เพียงตัวเดียวกับมี s สองตัว dessert คำนี้แปลว่าของหวานซึ่งเป็นคำนาม ส่วน desert แปลว่า ทะเลทราย ต่อมาคือคำว่า accept กับ except คำศัพท์ทั้งสองคำนี้นอกจากมีการเขียนคล้ายกันแล้วยังมีการออกเสียงคล้ายกันอีกด้วย แต่ถ้าตามความหมายแล้วถือว่าเป็นคำที่ตรงกันข้ามกันเลยที่เดียว โดย accept เป็นคำกริยาแปลว่า ยอมรับ , ตกลง ตัวอย่างประโยคเช่น He asked her to marry him and he accept him. เขาได้ขอเธอแต่งงานและเธอก็ตกลง ส่วน except แปลว่า ยกเว้น ตัวอย่างประโยคเช่น When I say that the boys are lazy , I except Tom. เมื่อฉันพูดว่าเด็กผู้ชายขี้เกียจ ฉันไม่ได้รวมทอมเข้าไปด้วย

Borrow กับ lend คำศัพท์คู่นี้ไม่ได้สับสนที่การเขียน แต่อาจมีการสับสนที่ความหมาย ทั้งสองคำนี้เป็นคำกริยา ซึ่งแปลว่า ยืม แต่ borrow จะใช้ว่า ขอยืม ตัวอย่างเช่น Can I borrow your car? ฉันขอยืมรถได้หรือเปล่า ส่วน lend จะใช้ว่า ให้ยืม ตัวอย่างเช่น Sorry , I can’t lend it to you today. ขอโทษด้วยนะ วันนี้ฉันให้เธอยืมไม่ได้ ต่อมา คำว่า home กับ house ก็เช่นกัน เมื่อก่อนดิฉันคิดว่ามันไม่ได้ต่างกันแต่เมื่อลองหาขอมูลดูพบว่ามันก็มีความต่างกันอยู่ คือ home นั่นแปลว่าบ้าน ในเชิงของการเป็นครอบครัวหรืออาจใช้ได้อีกความหมายหนึ่งคือบ้านเกิด ส่วน house ก็แปลว่าบ้าน แต่จะเป็นบ้านในเชิงของสิ่งก่อสร้างที่เป็นหลังๆนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีคำว่า excuse  me กับ sorry  ทั้งสองคำนี้เราอาจพูดกันติดปากซึ่งแปลว่า ขอโทษ แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันคือ excuse me เป็นการขอโทษเพื่อจะรบกวนอะไรบางอย่างต่อไปหรือการขอโทษพื่อขัดจังหวะ การทำอะไรสักอย่าง เช่น Excuse me , could I get pass? ขอโทษนะครับ ขอทางผ่านหน่อยได้ไหมครับ ส่วนคำว่า sorry นั้นเป็นการขอโทษเพื่อแสดงความเสียใจ เช่น Sorry , I step on your foot?  ขอโทษค่ะ ฉันเหยียบเท้าคุณใช่ไหมค่ะ และสุดท้ายคำว่า climate กับ weather โดย climate เป็นคำนาม แปลว่า ภูมิอากาศ ซึ่งจะใช้ในกรณีที่จะพูดแบบกว้างๆหรือทั่วๆไป เช่น Do you like the climate of Japan? คุณชอบภูมิอากาศของประเทศญี่ปุ่นไหม แต่ weather แปลว่า สภาพอากาศ จะใช้ในกรณีที่เราพูดโดยระบุเจาะจงถึงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งเช่น Yesterday the weather was very cold.เมื่อวานอากาศหนาวจัดมาก 
               การฟังเพลงก็เป็นสื่ออย่างหนึ่งที่สามารถช่วยให้ดิฉันได้พัฒนาทั้งทักษะด้านการฟังและยังได้เรียนรู้ประโยค คำศัพท์มากมาย จากการฟังเพลง see you again ซึ่งแปลว่า แล้วพบกันใหม่อีกครั้ง และมีหลายประโยคที่อยู่ในเนื้อเพลงที่ให้ความรู้และความน่าสนใจคือ It’s been a long day. แปลว่า มันเป็นวันที่แสนยาวนาน เราสามารถนำประโยคดังกล่าวมาพูดได้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น I feel like it is been a long day . I just want to lay in bed. วันนี้มันเหนื่อยมาก ฉันแค่อยากจะเอนหลังนอนสักหน่อย ต่อมา That’s all we got. นั่นแหละสิ่งที่เรามีอยู่และได้คำศัพท์ใหม่ๆ reach เป็นคำกริยาแปลว่า มาถึง, ไปถึง คำว่า gonna หลายคนอาจเจอบ่อยมากซึ่งคำนี้ย่อมาจาก going to หมายถึง ตามนั้น นั่นเอง

อีกหนึ่งเพลงที่ดิฉันได้ฟังคือ Someone Like You ความหมายในเพลงนี้หมายถึง สักวันฉันจะหาใครสักคนที่เหมือนเธอ ถ้าตอนแรกที่ดิฉันแปลดิฉันจะแปลไปว่า บางคนที่ชอบคุณ แต่จริงๆแล้วมันแปลว่า ฉันจะหาใครสักคนที่เหมือนเธอ เราสามารถนำประโยคนี้ไปใช้กับการพูดของเราได้ เช่น Never mind , I will find someone like you. ไม่เป็นไรหรอก สักวันฉันจะหาใครคนนั้นที่เหมือนเธอเอง ประโยคต่อมาคือ Sometimes it lasts in love but sometimes it hurts instead. จากในประโยคได้รู้จักคำว่า instead หมายถึง แทนที่ และบางครั้งเราอาจเคยเห็นในรูปแบบที่มี preposition ตามหลัง คือ instead of เมื่อมี of มาตามหลังจะหมายถึง แทนที่จะ..... และ คำศัพท์ใหม่อีกหนึ่งในเนื้อเพลงนี้คือ settle down หมายถึง ลงหลักปักฐาน ตัวอย่างประโยคเช่น I heard that you are settled down and you are having a baby. ฉันได้ข่าวว่าเธอลงหลักปักฐานแล้วกำลังจะมีลูก

หลายคนอาจมีการสับสนในการใช้ little กับ a little และ การใช้ few กับ a few กล่าวคือ การใช้ little และ few  (ไม่มี a นำ) จะมีความรู้สึกแนวความคิดในทางลบ ตัวอย่างเช่น Hurry up! There’s little time. (มีค่าเท่ากับ not much หรือ not enough time) He’s not popular. He has few friends. (มีค่าเท่ากับ not many friends หรือ not enough friends) ต่อมาเป็นการใช้ a little และ a few ซึ่งจะมีความรู้สึกแนวความคิดในทางลบ ทั้งสองคำนี้จะมีความหมายเหมือนกับคำว่า some หรือ a small amount (มีอยู่บ้าง) ตัวอย่างเช่น Let’s go and have a cup of coffee. We have a little time before the train leaves. (มีความหมายเท่ากับ some time พอมีเวลาอยู่บ้าง) หรือ When did you last see tom? A few day ago. (จะมีความหมายเท่ากับ some days ago)

นอกจากนี้ดิฉันยังได้พัฒนาในส่วนของภาษาอังกฤษโดยการดูภาพยนตร์ต่างประเทศ การดูครั้งแรกก็พยายามฟังเป็นพากย์ภาษาอังกฤษและแน่นอนว่าดิฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็พยายามดูภาพประกอบด้วยและใส่ความจินตนาการเข้าไป โดยดิฉันได้ดูเรื่อง She is a man ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับผู้หญิงที่รักและชอบกีฬาฟุตบอล เขาอยากเข้าไปเล่นในทีมที่เก่งและมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ติดอยู่ที่ว่าเขาเป็นผู้หญิง ทั้งโค๊ชและเพื่อนในทีมไม่ยอมรับเธอเข้าทีม เขาจึงหาวิธีที่จะเข้าไปยังทีมๆนั้นให้ได้ ในทางเดียวกันแม่ของเขาก็พยายามปรับตัวของเขาให้เป็นผู้หญิงมากที่สุดแต่เขาไม่สามารถทำได้และชอบโกหกแม่อีกด้วย ต่อมาเขาได้คิดที่จะเข้าไปสู่ทีมได้แล้วคือ การปลอมตัวเป็นผู้ชายซึ่งเขาจะบอกทุกคนว่าเขาเป็นพี่ชายของเขา วันหนึ่งเจาได้เข้าไปอยู่ในหอพักฝึกของทีมฟุตบอลโดยร่างการของเขาได้เปลี่ยนเป็นผู้ชายหมดแล้ว เขาต้องลำบากในการใช้ชีวิตมาก เพราะเขาไม่อยากให้ใครรู้

แม้แต่เวลาเขาอาบน้ำ วันหนึ่งเขาได้กลับมาเป็นผู้หญิงเหมือนเดิมและได้เจอกับรูมเมทของเขาตอนที่เขาปลอมตัวเป็นผู้ชาย เขาได้เจอกันในงานเลี้ยงที่แม่ของเธอบังคับให้ไป เขาทั้งสองรู้สึกดีต่อกัน และเมื่อเขาได้กลับไปเป็นผู้ชายอีกครั้ง เขาก็พยายามทำทุกวิธีที่จะไม่ให้ผู้หญิงเข้ามาใกล้กับคนที่เธอรัก จนถีงวันแข่งฟุตบอลความจริงก็ถูกเปิดเผยว่าเธอไม่ใช่ผู้ชาย เธอพยายามอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่าจุดประสงค์ที่เธอปลอมตัวมาเพราะอยากเข้าทีมฟุตบอลจริงๆ ทุกคนเข้าใจยอกเว้นคนที่เธอรัก หลายเดือนผ่านไปทั้งคู่ก็ได้เจอกัน และได้ปรับความเข้าใจกันมารักกันเหมือนเดิม ดิฉันเข้าใจเรื่องได้เพราะว่าครั้งที่สองที่ดิฉันได้ดูเป็นภาษาไทยโดยมีซับภาษาอังกฤษควบคู่ไปด้วย เมื่อลองเปรียบเทียบในการดูทั้งสองครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองต้องพยายามอีกมากมาย

นอกจากนี้ดิฉันยังได้เรียนรู้ภาษอังกฤษจากโฆษณาอีกด้วย โฆษณาแรกมีบทความว่า Variety makes us strong... These are the secrets behind nature's genius. From forests in the Amazon to modest backyard ga creature and every species h maintain the health a stability of these wondrous surroundings. And the diverse the environment, the more beautiful it is to behold. แปลได้ว่า ความแตกต่างทำให้เราเข้มแข็ง.....สิ่งเหล่านี้เป็นความลับที่อยู่ข้างหลังคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของธรรมชาติ จากป่าดงดิบในอเมซอนถึงสวนหลังบ้านอันเงียบสงัด สิ่งมีชีวิตแต่ละประเภทและทุกชนิดช่วยรักษาความสมบูรณ์และความเสถียรภาพของสิ่งแวดล้อมอันน่าพิศวงเหล่านี้และยิ่งความหลากหลายของสิ่งแวดล้อมมากเท่าไร ความสวยงามก็มากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่ได้เรียนรู้จากประโยคที่บอกว่า And the diverse the environment, the more beautiful it is to behold. การใช้ the more , the more  เป็นคำที่เห็นบ่อย ซึ่งหลัง the more ทั้งสองจะเป็นคำหรือประโยคในรูปแบบเดียวกัน อย่างในโฆษณานี้ diverse ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ตามหลัง the more  ส่วนหลังก็คือ beautiful ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์เช่นกัน นั่นคือ the more + adjective เป็นโครงสร้างที่ไม่ได้ใช้เฉพาะกับ  the more เท่านั้น แต่สามารถใช้กับขั้นกว่าตัวอื่นได้ด้วย เช่น The harder you practice , the better you get. ยิ่งคุณฝึกหนักเท่าไร คุณก็จะดีขึ้นเท่านั้น

Imagine a place where opportunities are endless. As a seasoned professional you've got lot to give. You're looking for company that values people. Rewards them, and appreciates the depth and richness diversity bring. You won’t find a better place for your talent , ideas and experience than at Hewitt Associates. As on of the world’s leading HR consulting and benefits  delivery firms , we know what it takes to create a great place to work. แปลว่า จินตนาการถึงที่ที่โอกาสมีให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในฐานะที่เป็นผู้รู้ทุกๆด้านคุณมีอะไรมากมายที่จะให้ คุณกำลังมองหาบริษัทที่สรรเสริญพนักงานให้รางวัลกับพวกเขา และเห็นคุณค่าต่างๆที่ความสามารถหลากหลายนำมา คุณจะไม่สามารถพบที่ที่ดีไปกว่าบริษัท Hewitt สำหรับพรสวรรค์ ความคิดและประสบการณืของคุณในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำทางด้านการปรึกษาทรัพยากร บุคคลและจัดส่งผลประโยชน์ เรารู้ว่าอะไรที่จะทำให้สร้างสถานที่ที่ดีในการทำงาน สี่งที่ได้เรียนรู้จากบทความนี้คือ Imagine a place where opportunities are endless. Endless เป็น Adjective มาจาก end (n.) + less (suffix) ปราศจาก ไม่ ดังนั้น endless คือ ปราศจากการจบ นั้นก็คือ ไม่มีที่สิ้นสุด  You're looking for company that values people. Rewards them, and appreciates the depth and richness diversity bring. สำนวน looking for someone or something หมายถึง to hunt or search for someone or something นั่นคือ ค้นหาหรือค้นพบบางสิ่งหรือบางคน ตัวอย่างเช่น I am looking for someone to help me. ฉันกำลังมองหาใครสักคนช่วยฉัน

                A little over a year ago, started my first job as an engineer with Southern Company. Since then not only have l developed my skills as an engineer  I have grown as a leader and as a person I'm even planning to pursue a Masters of Business Administration degree through Southern Company's tuition reimbursement program" As the largest energy producer in the southeast Southern Company offers bright energetic professionals  a rewarding career and the opportunity to make a difference in their lives and the community Because of people like Marsha Tucker and you, the future looks brighter for interested in learning more about a career with Southern company.

                จากบทความข้างต้นหมายความว่า  พลังงานเพื่อรับใช้โลกคุณ : มาร์ชา ทัคเกอร์ กำลังสร้างสิ่งที่มากกว่าประวัติศาสตร์การทำงานของเธอ เธอกำลังสร้างอาชีพหนึ่ง หนึ่งปีเศษๆที่ผ่านมา ดิฉันเริ่มทำงานแรกของดิฉันในตำแหน่งวิศวกรที่บริษัทเซาเทริน์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดิฉันพัฒนาความสามารถความชำนาญในงานทางด้านวิศวกรรมไม่เพียงเท่านั้นดิฉันยังเจริญเติบโตในฐานะเป็นผู้นำและเป็นคนที่มีประสบการณ์ ดิฉันกำลังวางแผนที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโต สาขาบริหารธุรกิจด้วยทุนเล่าเรียนของบริษัทเซาเทริน์ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทเซาเทริน์ยื่นอาชีพและโอกาสที่สว่างไสวมีพลัง เพื่อสร้างความแตกต่างในชีวิตและชุมชนของพวกเขาเพราะว่าบุคคลอย่างมาร์ชา ทัคเกอร์และคุณ อนาคตของเราทั้งหมดดูเหมือนจะสว่างขึ้น

                ซึ่งได้รับความรู้จากบทความนี้มากมายคือ A little over a year ago , I started my first job as an engineer with Southern Company. คำว่า ago เป็นคำวิเศษณ์บ่งบอกเวลาซึ่งอ้างถึงเวลาที่ล่วงผ่านไปแล้ว มีความหมายเหมือนกับคำว่า since แต่ทั้งสองคำควรจะถูกใช้ร่วมกัน อย่างเช่นไม่สามารถ เขียนว่า “It was two years ago since I last came here.” เพราะถือว่าเป็นการใช้คำที่มีความหมายซ้ำซ้อนประโยคนี้ควรจะใช้ “That” ตามหลัง “ago” หรือไม่ก็ตัดคำว่า “ago” ทิ้งไป ต่อมาคือ “as” เป็นคำที่สามารถทำหน้าที่ได้หลายอย่างมีประโยชน์เกินตัวจริงๆในโฆษณานี้ as ทำหน้าที่เป็นคำบุพบท ซึ่งมีความหมายได้ว่า อย่างเช่นในฐานะที่เป็น

                จากการได้เรียนรู้นอกห้องเรียนดิฉันได้พบแหล่งเรียนรู้ใหม่ๆความรู้ใหม่ๆที่สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตการเรียนจริงๆทั้งการดูสถานการณ์จำลองสถานที่ต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษในรายการภาษาอังกฤษติดล้อ ที่ได้ทั้งคำศัพท์ ประโยคต่างๆและได้ฟังสำเนียงของผู้จัดรายการที่น่าฟังและมีความชัดเจ ทั้งนี้ยังได้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนของคำศัพท์ที่มักจะมีการใช้ที่สับสน และบางคำดิฉันก็ไม่เคยรู้หลักการใช้มาก่อน ได้ทั้งทักษะการฟัง โดยการฟังเพลงสากล ดูหนังภาพยนตร์ต่างประเทศ ถึงแม้ยังฟังไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยังได้พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆในด้านของภาษาอังกฤษ และดิฉันคิดว่า การที่เรารู้จักฝึกบ่อยๆทำให้เราเข้าใจและใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมากยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น