วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning log 6 (สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน)


เมื่อพูดถึง clause หรือนุประโยค ซึ่งหมายถึง กลุ่มคำที่มีประธานกริยาในประโยคแต่มีใจความไม่สมบูรณ์ในตัวเอง จึงไม่สามารถใช้โดยลำพังได้ ต้องอาศัยใจความเป็นประโยคหลักเข้ามาช่วย หรืออีกนัยหนึ่ง  clause ก็คือประโยคที่ซ่อนอยู่ในประโยคนั่นเอง ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 clause คือ Noun clause เป็นประโยค subordinate clause ที่มีประธานและส่วนขยายเป็นของตัวเองทำหน้าที่เป็น Adverb และสุดท้ายคือ Adjective Clause เป็นตัวที่ทำหน้ามี่เสมือน Adjective  ขยายคำนามหรือสรรพนาม ซึ่ง Adjective Clause มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

Adjective Clause คือ subordinate clause ที่ทำหน้าที่เป็นคำเสมือนคำ Adjective คำหนึ่งคือทำหน้าที่ขยายคำนามและคำสรรพนาม และบางครั้ง Adjective Clause อาจเรียกมันว่า Relative Clause ก็ได้เพราะว่าใช้ Relative Clause นำหน้าประโยค เช่น  John , who was injured , left the field. จอห์น ผู้ซึ่งได้รับบาดเจ็บได้ออกจากสนามไป อธิบายได้ว่า  who was injured เป็น adjective clause  จะไปขยายคำนามที่อยู่หน้าคือ John relative pronoun คือ สรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยค subordinate clause เข้ากับประโยค main clause โดยใช้เชื่อมหรือขยายคำนามหรือคำสรรพนามที่วางอยู่ข้างหน้าประโยค adjective clause นั่นเอง

Relative Clause จะมีคำเชื่อมที่ทำหน้าที่ประโยคอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน ชนิดที่หนึ่งคือ Relative clause นั่นก็คือ who / that ที่ใช้แทนคน whom/that/who ใช้แทนบุคคลที่เป็นกรรมและ whose เป็นส่วนขยาย possessive  หากต้องการใช้แทนสิ่งของ ชนิดที่สองคือ relative adverbs เป็นคำวิเศษณ์นำหน้า relative clause ได้แก่ where when why ตัวอย่างประโยคเช่น That’s the restaurant  where we had dinner last night. นั่นคือ ภัตตาคารที่เรามาทานอาหารเย็นกันเมื่อวานนี้

ตำแหน่งของ relative clause ประการแรกคือ ประโยค relative clause เมื่อใช้ขยายคำนามหรือสรรพนามตัวใดให้วางประโยค relative clause ไว้หลังคำนั้นทันที ตัวอย่างประโยคเช่น  The teacher who  teaches English for Business is an excellent teacher. ครูที่สอนวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจเป็นครูที่เยี่ยมมาก อธิบายได้ว่า Who teaches English for Business เป็น adjective clause ขยายคำนาม teacher จึงไว้หลัง teacher ประการต่อมาคือ เมื่อใช้ relative pronoun แทนคำนามหรือสรรพนามในประโยคแล้ว ให้ตัดคำนามและสรรพนามที่ relative pronoun ใช้แทนออกไป เช่น John married a woman who works in his office.

วิธีการใช้ relative pronoun ที่ใช้กับคน คือ who และ that ที่ใช้แทนคนโดยเป็นประธานในประโยค Adjective clause ตัวอย่างเช่น The girl who stole your car has been arrested. ผู้หญิงที่ขโมยรถของคุณได้ถูกจับแล้วนะ อธิบายได้ว่า (who  ใช้แทน girl) ที่อยู่ด้านหน้าและเป็นประธานของประโยคหลักและ who เป็นประธานองประโยค adjective clause แต่ทั้งนี้ทุกประโยคที่มี  adjective clause อยู่ด้วยจะแยกออกได้เป็น 2 ประโยคเสมอ คือ ประโยค main clause และประโยค adjective clause เช่นThe boy who stole the watch was caught. ประโยคหลักคือ  The boy was caught ประโยค adjective clause คือ The boy stole the watch.

การใช้ whom , who และ that เป็นกรรมของประโยค adjective clause โดยใช้แทนคน รูปที่ใช้เป็นทางการจริงๆคือ whom แต่ถ้าในภาษาพูดมักจะใช้ who  และ that แทน whom  โดยการนำ whom , who และ that ที่อยู่มนรูปกรมนี้ไว้ต้นประโยค adjective clause โดยจะวางคำ เหล่านี้ไว้ใกล้กับคำนามที่ไปขยายมากที่สุด แต่ก็มีบางครั้งที่คำเหล่านี้จะอยู่ในรูปกรรมที่ถูกละไว้ในฐานที่เข้าใจ โดยไม่ปรากฏให้เห็นในประโยค adjective clause เลย เช่น  The girl whom   I saw was Sona. à The girl I saw was Sona.

การใช้ whom , who และ that ที่ใช้กับ preposition ในประโยค adjective clause ถ้าใช้เป็นแบบทางการจริงๆ แล้ะจะวาง praposition ไว้หน้าคำดังกล่าว แต่ตอนนี้เรามักนิยมวาง preposition ไว้ท้ายประโยค adjective clause หรือท้ายกริยาของประโยค ส่วน relative pronoun ที่นิยมนำ preposition วางไว้ข้างหน้า ปัจจุบันมีเพียง whom และ which เช่น He is the man ประโยคหลัก I told you about him. adjective clause จะได้ว่าHe is the man about whomI told you him. นี่คือผู้ชายที่ผมเล่าให้คุณฟัง (about เป็น preposition วางอยู่หน้า pronoun - him) him เป็น pronoun ในประโยครองซึ่งใช้แทนคำหลักคือ the man เมื่อ him เป๋นกรรมเป็นคนก่อนนำไปขยายประโยคหลักจึงต้องเปลี่ยน him เป็น whom ก่อน whom I told you about (about เป็นpreposition โดยปกติจะวางไว้หน้า whom ดังที่กล่าว ดังนั้นจึงได้เป็น about whom I told you)

การใช้ whose เพื่อใช้แสดงความเป็นเจ้าของจะใช้กับคน โดยนำ whose + noun วางไว้ต้นประโยค adjective clause แต่จะละ whose ไว้ในฐานที่เข้าใจเหมือน whom who that  ไม่ได้ ซึ่ง whose นั้นมีความหมายเหมือนการแสดงความเป็นเจ้าของตัวอย่างเช่น TI saw the man whose car had broken down. ผมเจอผู้ชายซึ่งรถของเขาถูกทำลาย  ต่อมาเป็นการใช้ which และ that แทนสิ่งของและเป็นประธานของประโยคถ้ามีการเปรียบเทียบระหว่าง which และ that แล้ว which จะมีการใช้มากกว่า that แต่ที่สำคัญคือ which และ that ถ้าใช้แทนคำนามที่เป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ตามคำที่ตัวเองใช้แทน เช่น The book which is on the table is mine. หรืออาจใช้ that แทนก็ได้

วิธีการใช้ relative adverb ( where , when , why) สำหรับวิธีการใช้ where จะใช้ในประโยค adjective clause เพื่อขยายคำนามที่บอกสถานที่ โดยการวางไว้หน้าประโยค adjective clause เช่น The spot where Lincoln was buried become a place of pilgrimage ที่ๆลินคอล์นถูกฝังอยู่กลายเป็นที่แสวงบุญไปแล้ว ต่อมาคือ when ใช้ในประโยค adjective clause เพื่อขยายคำนามที่เกี่ยวกับเวลา โดยจะวางไว้ในตำแหน่งเดียวกับ where เช่น  My father bought this property in 1990 when land was very cheap. พ่อผมซื้อสมบัติชิ้นนี้ในปี 1990 ซึ่งในขณะนี้ที่ดินราคาถูกมาก why ใช้นำหน้าประโยค adjective clause เพื่อแสดงเหตุผลขยายคำนามหลักที่อยู่ในประโยคหลัก เช่น The reason why he refused was the price.


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น