เมื่อพูดถึง
clause หรือนุประโยค ซึ่งหมายถึง
กลุ่มคำที่มีประธานกริยาในประโยคแต่มีใจความไม่สมบูรณ์ในตัวเอง
จึงไม่สามารถใช้โดยลำพังได้ ต้องอาศัยใจความเป็นประโยคหลักเข้ามาช่วย
หรืออีกนัยหนึ่ง clause ก็คือประโยคที่ซ่อนอยู่ในประโยคนั่นเอง ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 clause
คือ Noun clause เป็นประโยค subordinate
clause ที่มีประธานและส่วนขยายเป็นของตัวเองทำหน้าที่เป็น Adverb
และสุดท้ายคือ Adjective Clause เป็นตัวที่ทำหน้ามี่เสมือน
Adjective ขยายคำนามหรือสรรพนาม ซึ่ง Adjective
Clause มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
Adjective
Clause คือ subordinate clause ที่ทำหน้าที่เป็นคำเสมือนคำ
Adjective คำหนึ่งคือทำหน้าที่ขยายคำนามและคำสรรพนาม และบางครั้ง Adjective
Clause อาจเรียกมันว่า Relative Clause ก็ได้เพราะว่าใช้
Relative Clause นำหน้าประโยค เช่น John , who was injured , left the
field. จอห์น ผู้ซึ่งได้รับบาดเจ็บได้ออกจากสนามไป
อธิบายได้ว่า who was injured เป็น adjective clause จะไปขยายคำนามที่อยู่หน้าคือ John
relative pronoun คือ สรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยค subordinate
clause เข้ากับประโยค main clause โดยใช้เชื่อมหรือขยายคำนามหรือคำสรรพนามที่วางอยู่ข้างหน้าประโยค
adjective clause นั่นเอง
Relative Clause
จะมีคำเชื่อมที่ทำหน้าที่ประโยคอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน ชนิดที่หนึ่งคือ Relative
clause นั่นก็คือ who / that ที่ใช้แทนคน whom/that/who
ใช้แทนบุคคลที่เป็นกรรมและ whose เป็นส่วนขยาย
possessive หากต้องการใช้แทนสิ่งของ
ชนิดที่สองคือ relative adverbs เป็นคำวิเศษณ์นำหน้า relative
clause ได้แก่ where when why ตัวอย่างประโยคเช่น
That’s the restaurant where we
had dinner last night. นั่นคือ ภัตตาคารที่เรามาทานอาหารเย็นกันเมื่อวานนี้
ตำแหน่งของ
relative clause ประการแรกคือ ประโยค relative
clause เมื่อใช้ขยายคำนามหรือสรรพนามตัวใดให้วางประโยค relative
clause ไว้หลังคำนั้นทันที ตัวอย่างประโยคเช่น The teacher who teaches English for Business is an excellent
teacher. ครูที่สอนวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจเป็นครูที่เยี่ยมมาก
อธิบายได้ว่า Who teaches English for Business เป็น adjective
clause ขยายคำนาม teacher จึงไว้หลัง teacher
ประการต่อมาคือ เมื่อใช้ relative pronoun แทนคำนามหรือสรรพนามในประโยคแล้ว
ให้ตัดคำนามและสรรพนามที่ relative pronoun ใช้แทนออกไป เช่น
John married a woman who works in his office.
วิธีการใช้
relative pronoun ที่ใช้กับคน คือ who และ that ที่ใช้แทนคนโดยเป็นประธานในประโยค Adjective
clause ตัวอย่างเช่น The girl who stole your car has been arrested.
ผู้หญิงที่ขโมยรถของคุณได้ถูกจับแล้วนะ อธิบายได้ว่า (who ใช้แทน girl)
ที่อยู่ด้านหน้าและเป็นประธานของประโยคหลักและ who เป็นประธานองประโยค
adjective clause แต่ทั้งนี้ทุกประโยคที่มี adjective clause อยู่ด้วยจะแยกออกได้เป็น
2 ประโยคเสมอ คือ ประโยค main clause และประโยค adjective
clause เช่นThe boy who stole the watch was caught. ประโยคหลักคือ The boy was
caught ประโยค adjective clause คือ The
boy stole the watch.
การใช้
whom , who และ that เป็นกรรมของประโยค
adjective clause โดยใช้แทนคน รูปที่ใช้เป็นทางการจริงๆคือ whom
แต่ถ้าในภาษาพูดมักจะใช้ who และ that แทน whom โดยการนำ whom , who และ that ที่อยู่มนรูปกรมนี้ไว้ต้นประโยค adjective
clause โดยจะวางคำ เหล่านี้ไว้ใกล้กับคำนามที่ไปขยายมากที่สุด
แต่ก็มีบางครั้งที่คำเหล่านี้จะอยู่ในรูปกรรมที่ถูกละไว้ในฐานที่เข้าใจ
โดยไม่ปรากฏให้เห็นในประโยค adjective clause เลย เช่น The girl whom I saw was Sona. à The girl I saw was Sona.
การใช้
whom , who และ that ที่ใช้กับ preposition
ในประโยค adjective clause
ถ้าใช้เป็นแบบทางการจริงๆ แล้ะจะวาง praposition ไว้หน้าคำดังกล่าว
แต่ตอนนี้เรามักนิยมวาง preposition ไว้ท้ายประโยค adjective
clause หรือท้ายกริยาของประโยค ส่วน relative pronoun ที่นิยมนำ preposition วางไว้ข้างหน้า
ปัจจุบันมีเพียง whom และ which เช่น He
is the man ประโยคหลัก I told you about him. adjective
clause จะได้ว่าHe is the man about whomI told you him. นี่คือผู้ชายที่ผมเล่าให้คุณฟัง (about เป็น preposition
วางอยู่หน้า pronoun - him) him เป็น pronoun ในประโยครองซึ่งใช้แทนคำหลักคือ the
man เมื่อ him เป๋นกรรมเป็นคนก่อนนำไปขยายประโยคหลักจึงต้องเปลี่ยน
him เป็น whom ก่อน whom I told
you about (about เป็นpreposition โดยปกติจะวางไว้หน้า whom ดังที่กล่าว
ดังนั้นจึงได้เป็น about whom I told you)
การใช้
whose เพื่อใช้แสดงความเป็นเจ้าของจะใช้กับคน โดยนำ whose
+ noun วางไว้ต้นประโยค adjective clause
แต่จะละ whose ไว้ในฐานที่เข้าใจเหมือน whom who
that ไม่ได้ ซึ่ง whose
นั้นมีความหมายเหมือนการแสดงความเป็นเจ้าของตัวอย่างเช่น TI
saw the man whose car had broken down. ผมเจอผู้ชายซึ่งรถของเขาถูกทำลาย ต่อมาเป็นการใช้ which และ
that แทนสิ่งของและเป็นประธานของประโยคถ้ามีการเปรียบเทียบระหว่าง
which และ that แล้ว which จะมีการใช้มากกว่า that แต่ที่สำคัญคือ which
และ that ถ้าใช้แทนคำนามที่เป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ตามคำที่ตัวเองใช้แทน
เช่น The book which is on the table is mine. หรืออาจใช้ that
แทนก็ได้
วิธีการใช้
relative adverb ( where , when , why) สำหรับวิธีการใช้ where จะใช้ในประโยค adjective
clause เพื่อขยายคำนามที่บอกสถานที่ โดยการวางไว้หน้าประโยค adjective
clause เช่น The spot where Lincoln was buried become a
place of pilgrimage ที่ๆลินคอล์นถูกฝังอยู่กลายเป็นที่แสวงบุญไปแล้ว
ต่อมาคือ when ใช้ในประโยค adjective clause เพื่อขยายคำนามที่เกี่ยวกับเวลา โดยจะวางไว้ในตำแหน่งเดียวกับ where
เช่น My father
bought this property in 1990 when land was very cheap. พ่อผมซื้อสมบัติชิ้นนี้ในปี
1990 ซึ่งในขณะนี้ที่ดินราคาถูกมาก why ใช้นำหน้าประโยค adjective
clause เพื่อแสดงเหตุผลขยายคำนามหลักที่อยู่ในประโยคหลัก เช่น The
reason why he refused was the price.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น