วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Learning log 5 (สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน)


                ในปัจจุบันนี้คนไทยส่วนใหญ่รวมไปถึงดิฉันมักใช้คำศัพท์ผิดบ่อย หรือเป็นคำที่พูดกับติดปาก ความจริงแล้ว “มันผิดทั้งความหมาย หรือบางคำที่ใช้แทบไม่มีในภาษาอังกฤษ หรือบางคำเกิดจากการผสมคำใหม่ขึ้นมาเองของคนไทย คำศัพท์บางคำก็สามารถทำให้ชาวต่างชาติไม่เข้าใจได้ ดิฉันจึงได้ศึกษาค้นคว้าเพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ดิฉันยังได้ฝึกทักษะการดู โดยการดูการ์ตูนภาษาอังกฤษเรื่อง  Roas Gog to Hne City ซึ่งได้ทั้งการฟัง การฝึกแปลจากไทยให้เป็นอังกฤษและได้เรียนรู้คำศัพท์อีกด้วย และจึงทำให้เรารู้สึกได้เพลิดเพลินในการเรียนรู้อีกด้วย

                คำศัพท์ในภาษาอังกฤษทั่วไปที่เราพูดกันติดปากมีอยู่มากมาย และคำศัพท์เหล่านี้ที่เราใช้มีทั้งผิดและถูก หรือบางคำอาจจะไม่มีในภาษาอังกฤษ โดยการจากการผสมคำใหม่ขึ้นมาเองของคนไทย ทำให้เมื่อเรานำไปใช้ชาวต่างชาติอาจไม่เข้าใจตัวอย่าง เช่น คำว่า Fitness : เข้าฟิตเนส  คนไทยมักเข้าใจว่า “Fitness”  คือสถานที่ที่ออกกำลังกาย  แต่ความจริงแล้วคำว่า Fitness ของชาวต่างชาติจะแปลว่า สมรรถภาพของร่างกาย” ไม่ใช่สถานที่ที่ออกกำลังกายอย่างที่เราเข้าใจ และพวกเราต้องการจะสื่อความหมายของสถานที่ต้องใช้คำว่า “Fitness Center”  หรือใช้คำว่า “gym”  จะดีกว่า ตัวอย่างต่อมาคือคำว่า Over เรามักจะพูดว่า Over เมื่อเราเห็นใครสักคนชอบทำอะไรเกินจริง แต่ฝรั่งจะใช้คำที่สื่อความหมายถึงคนที่ทำอะไรเยอะเกิดความจริงว่า “exaggerate”เช่น  She always exaggerate about his haves. เขาพูดเวอร์เกี่ยวกับบ้านของเขา

                นอกจากนี้ยังมีคำว่า Oneck bill เป็นอีกคำที่เป็นคำยอดฮิต  คนอังกฤษจะใช้คำว่า bill (บิล) เช่น bill ,please  ส่วนคนอเมริกันจะพูดว่า Check, please  แต่คนไทยมักใช้รวมกันว่า “check bill” ซึ่งเป็นคำที่ผิด เราจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง คำตอบมาคือคำว่า Mansion คำนี้เวลาฝรั่งถามคนไทยว่าพักอยู่ที่ไหน คนไทยบางคนชอบบอกว่าอยู่ mansion คฤหาสน์ ซึ่งก็อาจจะทำให้ฝรั่งบางเข้าใจผิดได้ในความรวมของเรา ดังนั้นคนไทยควรใช้คำว่า “Flat” หรือ Apartment จะดีกว่าและคำต่อมาคือ Never mind เรามักจะพูดว่า Never mind เพื่อบอกว่าไม่เป็นไร เช่นเมื่อเขาบอกขอบคุณหรือขอโทษ เราก็ตอบไปว่า never mind  ความจริงแล้ว never mind  จะแปลว่า “ช่างมันเถอะ” หรือ “ลืมมันซะ” ตัวอย่างเช่น เวลาที่เราอธิบายอะไรสักอย่างให้เพื่อนฟัง แต่เพื่อนก็ดันไม่เข้าใจสักที เขาก็เลยบอกเพื่อนไปว่า never mind   ช่างมันเถอะ เพราะฉันขี้เกียจอธิบายแล้ว

                ถ้าเราจะพูด “ไม่เป็นไร” เวลาที่มีคนมาขอบคุณเราก็ต้องพูด You’re welcome (ด้วยความยินดี) , My pleasure (ยินดี) , Don’t mention it (ไม่เป็นไร)  และถ้ามีคนมาขอโทษาแล้ว เมื่อจะบอกว่าไม่เป็นไร เช่น No problem (ไม่มีปัญหา) , Don’t wary about it  (อย่ากังวล) เป็นต้น ภาษาอังกฤษที่เราใช้แบบผิด ๆ ก็มองได้อีกอย่างคือการยืมคำมาใช้แต่งเติมคำในภาษาตัวเอง แต่เนื่องจากความเคยชินและความเข้าใจแบบผิด ๆ นี้เองก็อาจทำให้เรื่อผิดกลายเป็นเรื่องถูกได้ ที่สำคัญคือ ถ้าเราต้องการพูดสื่อสารกับชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของภาษาอังกฤษ การเข้าใจความหมายตามหลักสากลจะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปในทางเดียวกัน ไม่เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่หลงประเด็นเป็นอย่างอื่นได้นั่นเอง

                การเรียนรู้และพัฒนาทางด้านภาษาอังกฤษมีได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็น การฟังข่าว การอ่านหรือการดูเป็นต้น โดยดิฉันได้ฝึกการดูการ์ตูนภาษาอังกฤษแบบสั้น ๆ  จากเรื่อง Rosa goes to the city ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับช้างที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์มีชื่อว่า โลซ่าและมีควาญช้างที่รักมันมาก ดูแลทุกอย่าง นักท่องเที่ยวมากมายที่เข้ามาชมดูโรซ่า มันถูกดูแลกว่าสัตว์ตัวอื่น วันหนึ่งหลังจากโรซ่ากินอาหารเสร็จ ควาญช้างที่ดูแลมัน ลืมปิดประตูกรง และไม่ค่อยสนใจมันเหมือนเดิม มันจึงถือโอกาสออกจากสวนสัตว์ เข้าไปสู่ตัวเมือง มันทำให้ผู้คนแตกตื่น ตกใจ และวุ่นวายกันไปหมด เดินไปสักพักมันก็ได้เจอกับเด็กคนหนึ่ง ทั้งสองยิ้มให้กันและดูมีความสุข และอีกไม่นานควาญช้างก็ตามหามันจนเจอ และบอกว่าเขาเข้าใจว่าการอยู่ในกรงทำให้มันไม่มีความสุข ควาญช้างจึงนำมันไปสู่ป่า และมันก็ดูมีความสุขมาก ๆ ถึงมากที่สุดคำศัพท์ที่ได้จากเนื่อง Ignore ไม่สนใจ และคำว่า giggle หัวเราะ คึกคัก

                จากการได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ที่มักใช้ผิดนั้น ดิฉันได้เข้าใจคำแต่ละคำว่าใช้อย่างไร หรือคำๆ นี้ควรใช้คำไหนมาแทนและจากการได้ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษนั้นรู้สึกได้ทั้งความรู้และความสนุก ดิฉันคิดว่า การดูการ์ตูนนั้นมีประโยชน์มากมายให้กับเรา ทั้งทางด้านพัฒนาตนเองทางภาษาทักษะการฟัง ทักษะการคิด เพราะการ์ตูนยาว เรื่องเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ดังนั้น การที่เราได้คิดวิเคราะห์เรื่องว่าเป็นอย่างไรได้ แสดงว่า เราเข้าใจเรื่องและทั้งนี้ยังได้ฝีกการแปลเนื้อเรื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยอีกด้วย