บทที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแปล
ปัจจุบันการใช้ภาษาอังกฤษเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะการใช้ในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นทางด้านธุรกิจ สังคม การเมือง การศึกษา
และเศรษฐกิจ ซึ่งการสื่อสารดังกล่าวส่วนใหญ่จะใช้กับชาวต่างประเทศทั้งนั้น แต่ที่สำคัญคือภาษาอังกฤษสำหรับบางคนนั้นยังไม่แข็งแรงพอ
ไม่ว่าจะเป็น การอ่าน การเขียน การพูด แม้กระทั่งการแปล ภาษาอังกฤษในปัจจุบันจึงต้องอาศัยผู้แปลอย่างยิ่งเพื่อให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นงานแปลที่ดี ผู้แปลจึงต้องเอาใจใส่ในการวิเคราะห์
การตีความหมายให้ได้ใจความมากที่สุด
เพื่อให้งานนั้นออกมาถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด
หลายคนคิดว่าการแปลก็คือการถ่ายทอดความคิดจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่ง
ก็จริงอยู่ แต่ทั้งนี้การแปลจะต้องทำให้บทความนั้นๆ มีใจความที่ถูกต้องตามแบบฉบับ
มีลักษณะเป็นธรรมชาติ ไม่ติดสำนวนฝรั่ง ใช้ภาษาสละสลวย
และอื่นๆอีกมากมายแต่งานแปลจะมีลักษณะที่ดีได้นั้น
ก็ต้องพึ่งคุณสมบัติของผู้แปลด้วยคือ เป็นคนที่รู้ภาษาเป็นอย่างดี สามารถถ่ายทอดให้ผู้อ่านเข้าใจ
รักการอ่าน มีความตั้งใจ ละเอียดและรอบคอบ เป็นต้น
บทบาทของการแปล
การแปลเป็นทักษะที่พิเศษในการสื่อสาร คือผู้รับสาร
ที่ไม่ได้รับสารโดยตรงแต่จะรับสารจากผู้แปลอีกทอดหนึ่ง
การให้ความหมายในการแปล มี 2 แบบ คือ
1.
การแปลโดยมีรูปประโยคที่ต่างกันแต่มีความหมายเดียวกัน
2. การตีความหมายจากบริบทของข้อความนั้นๆ
การแปลความหมายตามทัศนคติของนักอรรถศาสตร์ การใช้ปัจจุบันกาล มีรูปแบบของกาล 2 กาล คือ ปัจจุบันกาลแบและอนาคต
ปัจจุบันกาลที่ปรากฏในประโยคคือ
· เป็นการกระทำที่เป็นนิสัย – โครงสร้างของประโยคนี้แสดงถึงการกระทำที่เป็นปัจจุบัน
· การกระทำตามธรรมชาติ – โครงสร้างของประโยคแสดงการกระทำที่กำลังดำเนินอยุ่
· สถานภาพของปัจจุบันกาล – โครงสร้างของประโยคที่แสดงถึงสถานภาพที่กำลังเป็นอยู่
· อนาคตกาล – โครงสร้างของประโยคแสดงถึงการกระทำที่กำลังดำเนิน
การบ่งถึงอนาคต
· ปัจจุบันกาล – เป็นการแสดงถึงการกระทำที่มีช่วงเวลาสั้นในขณะนั้นหรือในอดีต
· การเล่าเรื่องที่เกิดในปัจจุบัน – ใช้ในการวิจารณ์หรือการแนะนำ
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อมีการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อมีการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย
-
การแปลที่ต้องเปรียบเทียบระหว่างปัจจุบันกาลปละอนาคตกาล
-
แปลตามความหมายของคำศัพท์
ไม่ใช่ตามโครงสร้างไวยากรณ์
-
แปลให้ความหมายมีความใกล้เคียงกับบริบทเพราะศัพท์บางคำมีได้หลายความหมาย
จึงต้องพิจารณา ให้ดี
-
การตีความทำนาย
การแปลความตีความจากบริบท
เป็นการแปลจากความคิกรวบยอดและให้มีความใกล้เคียงมากที่สุด
สิ่งที่ต้องนำมาใช้ในการวิเคราะห์ความหมายคือ
· องค์ประกอบของความหมาย คำศัพท์ ไวยากรณ์ และเสียง· ความหมายและรูปแบบ
- ความหมายหนึ่งอาจจะแสดงออกได้หลายรูปแบบ
เช่น
The dog bit the boy.
The boy was bitten by the dog.
ทั้งสองประโยคนี้มีความหมายเหมือนกัน ในประโยคที่หนึ่งจะใช้โครงสร้างในรูปของ present simple tense แต่ในประโยคที่สองจะอยู่ในรูปของ passive voice นั้นเอง
- รูปแบบเดียวอาจจะมีหลายความหมาย
The chicken is ready. มี 2 ความหมายคือ
-The chicken is ready to eat ( the chicken eats )
-The chicken is ready (for someone ) to eat.· ประเภทของความหมาย
o
ความหมายอ้างอิง
เป็นความหมายที่กล่าวอ้างโดยตรงถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
o
ความหมายแปล
ความรู้สึกทางอารมณ์ของผู้อ่าน/ฟัง อาจจะเป็นความหมายทางบวกหรือลบก็ได้
o
ความหมายตามบริบท
เป็นรูปแบบของภาษาที่อาจมีได้หลายความหมาย จึงต้องพิจารณาจากบริบทนั้นๆ
o
ความหมายเชิงอุปมา
เป็นความหมายที่เกิดจากการเปรียบเทียบทั้งมาจากการเปรียบเทียบแบบเปิดเผยและการเปรียบเทียบโดยนัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น